0
0
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบหนังสือการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) สินค้า “ผ้าไหมสาเกต” แก่นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ว่า กรมฯ ได้ขึ้นทะเบียนจีไอ สินค้าดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอีกรายการหนึ่ง โดยปัจจุบันมีการรวมกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัด 19 กลุ่ม สามารถผลิตสินค้าพื้นบ้านกว่า 15,000 ผืนต่อปี มีราคาจำหน่าย 1,800–2,500 บาทต่อผืน ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนไม่น้อยกว่า 27 ล้านบาทต่อปี และมั่นใจว่าการขึ้นทะเบียนจีไอจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนผู้ผลิตได้มากขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้โอกาสนี้ร่วมประชุมวางแนวทางจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานจีไอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค รองรับการส่งออก และการยื่นขอรับความคุ้มครองจีไอในต่างประเทศ โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ คือ ประเทศญี่ปุ่น
“ในภาคอีสานมีสินค้าจีไอไทยหลายรายการ ที่มีคุณภาพ พร้อมเป็น ซอฟต์เพาเวอร์ของไทย เพราะสามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอีสานได้เป็นอย่างดี เช่น ผ้าไหมสาเกต จังหวัดร้อยเอ็ด เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ครอบคลุมทุกจังหวัดของภาคอีสาน ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร และข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น โดยสินค้าเหล่านี้ได้สร้างเม็ดเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ท้องถิ่นอีสานกว่า 300 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงสู่ภาคการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แหล่งผลิตสินค้าให้มีศักยภาพต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าสู่จังหวัด สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นในทุกมิติด้วย”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
